Cindy Sirinya - Index

Living in a big city like Bangkok has its pros and cons when it comes to raising kids. On the one hand, we have all the modern and newest trends in kids recreational activities and indoor playgrounds, but due to the heat and traffic congestion, everything is mostly indoor and confined to air-conditioned spaces and malls. It can get quiet claustrophobic and stifling. I can't help but worry that our kids are growing up without the chance to nurture a more intimate relationship with nature. Thankfully, there a quite a few places not too far from Bangkok where we can escape from the fast-paced and hectic city life for a while. One of these is Amphawa, a laid-back riverside community just 65K out of Bangkok, perfect for a weekend family getaway. Here we can all slow down, unplug and recharge.

การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีตรงที่มีกิจกรรมที่ทันสมัยและอินเทรนด์ให้เด็กๆได้ทำเยอะ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้างหรือสถานที่ที่ติดแอร์เนื่องจากว่าอากาศด้านนอกร้อนและรถติดขัดมาก บางครั้งก็รู้สึกอึดอัดเหลือเกินและอดกังวลไม่ได้ว่าลูกเราขาดความสัมพันธ์กับธรรมชาติมากเกินไปหรือเปล่า แต่โชคดีที่ว่ามีสถานที่เที่ยวหลายแห่งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพที่เราสามารถพาครอบครัวไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่สงบและสบาย หนึ่งในนั้นก็คืออัมพวา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครอบครัวของเราชอบไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ เพราะห่างจากกรุงเทพแค่ 65 กิโล เหมาะกับการไปผักผ่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และที่นั้นเราสามารถใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์และพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

Our favorite place to stay in Amphawa is Asita Eco Resort, a tranquil Thai-style boutique resort right on the water. Each room opens out onto a canal that runs around the entire property. We wake up with the sun and spend lazy mornings sketching and playing games on the balcony, feeding the fish and take turn rowing the little boat to and from the pier (or in Aiden’s case around and around in circles!)

เราชอบพักที่ Asita Eco Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและติดริมคลอง สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบไทยได้อย่างชัดเจน ทุกห้องมีคลองอยู่ด้านหลัง เปิดประตูห้องออกมาก็เจอลำธารที่วนไปรอบโครงการ ตื่นมาตอนเช้าพร้อมกับพระอาทิตย์ ก็ออกมานั่งเล่นกันบนระเบียง วาดรูป เล่นเกมส์ ให้อาหารปลา และก็ชวนกันไปพายเรือเล่น (แต่สำหรับเอเด็นส่วนใหญ่ก็จะพายอยู่กับที่ วนไปรอบๆจนเวียนหัวกันหมด)

Its amazing how we instantly feel refreshed and rejuvenated just being around nature. No blaring TV noise, just chirping birds and rusting leaves. No glare from an iPad, just the twinkling reflection of the afternoon sun on the ripples of the green water. Here the kids can run barefoot in the grass, chase lizards and arrange delicate and fragrant bouquets of flowers that have fallen on the lawn. We lounge around all day in our Thai fisherman pants, the perfect wardrobe choice for such a vacation. Loose and comfortable, yet still effortless stylish :) I practically live in these.

ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแค่ช่วงเวลำสั้นๆก็ทำให้สภาพจิตใจและอารมณ์ของทุกคนดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มีเสียงทีวี มีแต่เสียงนกร้องและเสียงลมพัดใบไม้ ไม่มีแสงจาก iPad มีแต่แสงแดดเบาๆสะท้อนขึ้นจากน้ำคลอง ที่นี่เด็กๆสามารถวิ่งเล่นเท้าเปล่าบนสนามหญ้า ไล่จับกิ้งก่าและแมลงตัวเล็กๆ และช่วยกับเก็บดอกไม้ที่หล่นลงมาจากต้นไม้มาจัดเป็นช่อเล็กๆที่สวยงาม พวกเรานั่งเล่นนอนเล่นกันทั้งวันโดยเลือกที่จะใส่ชุดโปรดที่หนีไม่พ้นกางเกงชาวเลนั่นเอง เรียบง่ายและสบายที่สุดแล้ว

Aiden & Mommy in our favorite Thai fisherman pants.

In the afternoons when the sun gets hot, we cool off with a swim in the pool. The kids spend hours splashing and playing till their toes and fingers get wrinkly. Happy hour brings refreshments in the the form of watermelon smoothies for the kids and mojitos for the grown ups. Life moves as a leisurely pace with no alarms, no deadlines and nobody saying “hurry up! We’re going to be late!” (and by nobody, I mean myself) This is wonderful reminder for me to chill out, slow down and let go.

ช่วงบ่ายแดดร้อนก็ลงสระเล่นน้ำกัน เด็กๆเล่นนำ้จนมือไม้เปื่อย พอเหนื่อยก็ขึ้นมาพักดื่มนำ้แตงโมปั่นกัน ส่วนของคุณแม่ขอเป็น mojito แล้วกันนะคะ อิอิ เวลาเดินไปแบบช้าๆ ไม่มี deadlineไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก ไม่มีใครคอยบ่นให้ “เร็วๆ เดี๋ยวจะสายนะ” ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนคนนั้นก็คือเรานี่เอง การได้มาพักผ่อนแบบนี้ก็เป็นการเตือนสติตัวเองได้ดี ว่าอย่ารีบจนเกินไป อย่าเครียดมาก ปล่อยวางบ้าง จะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างทุกคนในครอบครัว

Not to long ago I came up with the term “Sabai Sabai Thai Style” It rhymes perfectly when said in a Thai accent as the word “style” is pronounced more like “stye”. And I can’t think of a more perfect place to be “ Sabai Sabai Thai Style” than here in Amphawa.

ซินดี้เคยตั้งสโลแกนส่วนตัวว่า “สบายสบาย Thai สไตล์” ถ้าพูดด้วยสำเนียงที่คนไทยพูดอังกฤษมันก็จะคล้องจองกันมาก และเป็นสโลแกนที่ช่างเหมาะเหลือเกินกับการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่อัมพวา ;)

For more information, visit www.asitaresort.com

PHOTOS BY: BYRON BISHOP

SLOW LIFE @ AMPHAWA